บิ๊กไบก์หัวร้อน ตบหัวลุงพิการผัวะ ‘รถกูเป็นอะไร มีปัญญารับผิดชอบไหม’

บิ๊กไบก์หัวร้อน ตบหัวลุงพิการผัวะ ‘รถกูเป็นอะไร มีปัญญารับผิดชอบไหม’

บิ๊กไบก์ตบหัวลุงพิการ – กลายเป็นคลิปว่อนโลกออนไลน์เมื่อเพจ เฮียขับรถ โพสต์คลิปชื่อ “กันน็อกกันตบ” ภาพบันทึกได้จากกล้องรถจักรยานยนต์คันหนึ่ง ถ่ายรถบิ๊กไบก์มีนักเรียนชายซ้อนท้ายกับโต้เถียงกับชายผู้พิการขี่รถจักรยานยนต์ เรื่องบานปลายถึงขั้นลงไม้ลงมือ ลุงพิการก็พยายามตีบิ๊กไบก์ ขณะบิ๊กไบก์ก็ตีเข้าหมวกกันน็อกลุงเต็มมือก่อนถีบซ้ำ แล้วบิ๊กไบก์ก็เร่งเครื่องหนีไปนั้น

นายบุญสม ณีวงศ์ อายุ 50 ปี ชายพิการที่โดนตบหัว 

เล่าให้รายการ รายการทุบโต๊ะข่าว ฟังว่า ตอนเกิดเหตุ (วันที่ 30 สิงหาคม) ตนเลี้ยวซ้ายที่แยกถนนมหาชัยเพื่อเข้าเลนกลาง รถบิ๊กไบก์คันดังกล่าวขับขี่มาด้วยความเร็วจนเกือบจะชน มิหนำซ้ำยังด่าตนว่า  “ถ้ารถกูเป็นอะไรไป จะมีปัญญารับผิดชอบไหม” ซึ่งประโยคดังกล่าว พยานที่เห็นเหตุการณ์ยืนยันว่าได้ยินคำทำนองคล้ายกันนี้หลุดออกมาจากปากบิ๊กไบก์จริงๆ

ชายคนดังกล่าวยังพยายามเงื้อหมัดจะชก ตนจึงสู้ ก่อนจะโดนตบหัวตรงท้ายทอยและถูกถีบตามที่ปรากฏในคลิป โชคดีไม่เป็นอะไรมาก แค่มึนหัว ส่วนเรื่องคดีความก็ปล่อยไป ไม่อยากถือสาหาความยาว

ด้านคนขับขี่บิ๊กไบก์เล่าในมุมของตนว่า ลุงพิการขี่แทรกมาชนที่แฮนด์ ตนก็ถามว่า “ลุงออกมาทำไม ไม่เห็นผมหรอ” ลุงตอบกลับมาว่า “ขี่เร็วทำไม” จากนั้นลุงก็ต่อยตน ตนจึงจึงตบไป 1 ที และที่ถีบไปเพราะลุงคว้าตัวไว้ ทั้งนี้ได้ทิ้งท้ายว่าขอโทษที่ใจร้อน ทำไปด้วยอารมณ์ชั่ววูบ

บิลลี่: อึ้ง พยาน 3 ปากกลับคำให้การ ไม่เห็นบิลลี่ถูกปล่อยตัว

บิลลี่ – แน่นอนแล้วว่า บิลลี่ หรือนายพอละจี รักจงเจริญ นักต่อสู้สิทธิมนุษยชนชาวกะเหรี่ยงแห่งบ้านบางกลอยบน-ใจแผ่นดิน ผู้หายตัวไปอย่างเปนปริศนาเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2557 เสียชีวิตลงแล้ว จากคำแถลงของ DSI มีหลักฐานยืนยันเป็นโครงกระดูกที่พบพร้อมถัง 200 ลิตร ตรวจเทียบสารพันธุกรรมตรงกับนางโพเราะจี รักจงเจริญ แม่ของนายบิลลี่

ย้อนกลับไปเมื่อ 5 ปีก่อน ก่อนบิลลี่จะหายตัว เขาถูกเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานควบคุมตัวที่ด่านเขามะเร็วไปสอบสวน โดยเจ้าหน้าที่อ้างว่า บิลลี่นำน้ำผึ้งออกจากอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งก่อนหน้านี้บิลลี่มีปัญหาพิพาทเรื่องที่ดินกับอุทยานแห่งชาติเขื่อนแก่งกระจาน เขาเป็นผู้นำในการต่อสู้เพื่อปกป้องที่ดินและทรัพย์สินของชาวบ้านในเขื่อนแก่งกระจานเมื่อปี 2554

ก่อนบิลลี่หายตัวไปเป็นปริศนา เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานอ้างว่าได้ปล่อยตัวบิลลี่ไปแล้ว หลังจากนั้นไม่ทราบว่าบิลลี่อยู่ที่ไหน

เมื่อมาถึงการสอบสวนพยาน 3 ปาก ซึ่งประกอบด้วย นายเกษม ลือฤทธิ์ หัวหน้าหน่วยพิทักษ์ป่าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานที่ 6 (กจ.6) ด่านเขามะเร็ว(ในขณะนั้น) คนควบคุมตัวบิลลี่ และนักศึกษาฝีกงานอีก 2 คน ทั้ง 3 ปากระบุว่า เห็นบิลลี่ถูกปล่อยตัวไปแล้ว

เรื่องกลับพลิกตาลปัตรเมื่อล่าสุด พยานทั้ง 3 ปากกลับคำให้การว่าไม่เห็นบิลลี่ถูกปล่อยตัว สอดคล้องกับหลักฐานจากกล้องวงจรปิดที่ไม่พบว่าบิลลี่ได้ถูกปล่อยตัวออกมาเช่นกัน

ปัจจุบันกระบวนการสืบสวนอยู่ในความดูแลของ DSI และ พ.ต.อ.ไตรวิช น้ำทองไทย อดีต รองผบก.สส.ภาค 7 ซึ่งส่งสำนวนใหม่ไปให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.)ให้พิจารณา

ฆ่าบิลลี่เผายัดถัง เผยวิธีสุดเหี้ยม เสียบเหล็กกันศพกระเด็น

บิลลี่ – หลังจากวานนี้ (4 ก.ย.) DSI แถลงผลการตรวจกระดูกที่พบในถัง 200 ลิตร บริเวณใกล้สะพานเขื่อนแก่งกระจาน ยืนยันว่าเป็นของนายบิลลี่ หรือนายพอละจี รักจงเจริญ นักต่อสู้สิทธิมนุษยชนชาวกะเหรี่ยงแห่งบ้านบางกลอยบน-ใจแผ่นดิน ร่วมต่อสู้เพื่อปกป้องที่ดินและทรัพย์สินของชาวบ้านในเขื่อนแก่งกระจาน ที่หายตัวไปเป็นปริศนาเมื่อปี 2557

“#ให้กำลังใจมือนอและครอบครัวในวันที่ยากลำบาก หลังจากที่ DSI แถลงข่าวพบหลักฐานบิลลี่เสียชีวิต จากนี้มือนอและครอบครัวคงจัดงานพิธีศพให้บิลลี่ได้แม้จะไม่มีร่างหลงเหลือให้เห็น ในส่วนคดี พนส DSI ต้องรีบสรุปว่าบิลลี่เสียชีวิตเพื่อเริ่มต้นคดีการฆาตกรรมและซ่อนเร้นอำพรางศพ โดยอายุความควรเริ่มจากวันที่พบหลักฐานนับไปอีก 20 ปี

ในส่วน ปปท. ซึ่งสอบสวนความผิดของ หน อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานซึ่งอ้างว่าจับกุมบิลลี่เรื่องมีน้ำผึ้งป่าจริง แต่ได้ปล่อยตัวไปทั้งที่ต้องควบคุมตัวไว้ เรื่องนี้ DSI คงต้องสอบสวนต่อเพราะพยานที่เคยให้การว่าเห็นบิลลี่หลังถูกปล่อยตัวได้กลับคำให้การว่าไม่เห็น

ช่วง DSI แถลงข่าวว่าพบหลักฐานชิ้นส่วนกระดูกท้ายทอยถูกเผาด้วยความร้อนสูงในถังน้ำมัน 200 ลิตร และต้องตรวจหา DNA ใน Mitocondria รวมถึงพบเหล็กเส้น 2 ชิ้น มีนักข่าวถามว่า #เหล็กเส้นมีความหมายอะไร แต่ DSI ยังไม่ได้ตอบจึงขอแบ่งปันประสบการณ์กรณี #สมชายนีละไพจิตร นะคะ กรณีสมชาย พบถังน้ำมัน 200 ลิตรเจาะรูลักษณะเดียวกันทั้งสิ้น 4 ถังพร้อมเหล็กเส้นถังละ 2 ชิ้นในพื้นที่และเวลาต่างกัน #เหล็กเส้นตามภาพใช้ขัดด้านบนของถังน้ำมันเพื่อที่เวลาเผาทำลายศพๆจะได้ไม่กระเด็นออกมา เพราะเป็นการเผาสด เรื่องนี้คนทั่วไปอ่านยังใจสลาย สำหรับครอบครัวคงไม่สามารถพรรณนาได้

การฆ่าก็โหดร้ายทารุณมากแล้ว การทำลายศพยิ่งทำให้เห็นความโหดเหี้ยม อมหิตไร้มนุษยธรรมมากขึ้นไปอีก

credit : starklaptops.com steveoakley.net termlifeinsuranceratesskl.com tippiesdad.com tolkienreadingday.net trssp.org universduflow.com vallenatisimo.com vwgrouplitigation.com